เรื่อง
การบัญชีเกี่ยวกับกิจการร่วมค้า
ความหมายและความสำคัญของกิจการร่วมค้า
1.
ความหมายของกิจการร่วมค้า
คำว่า Venture
แปลว่า การเสี่ยง ซึ่งหมายถึง
การเสี่ยงโดยพ่อค้าฝากสินค้าไปกับกัปตันเรือเพื่อขายสินค้าตามเมืองต่างๆปัจจุบันคำว่า
Venture หมายถึงการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีขอบเขตจำกัด
เป็นงานเล็ก ๆ ที่มีช่วงสั้นหรือมีลักษณะเป็นการชั่วคราว
โดยปกติเป็นงานที่เสี่ยงต่อการหากำไร
ซึ่งการลงทุนที่มีลักษณะเป็นการชั่วคราวนี้แยกออกเป็น 2 ลักษณะคือ
1.1 Single Venture ซึ่งหมายถึง
การดำเนินธุรกิจที่กระทำโดยบุคคลเดียวหรือกิจการเดียว ในการปฏิบัติทางการบัญชี
จะเห็นได้ว่า Single Venture
นั้นจะทำได้ง่ายกล่าวคือจะมีบัญชีเงินลงทุน(Investment Account)
ในสมุดบัญชีของผู้ประกอการในการบันทึกบัญชีจะบันทึกบัญชีเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายประเภทต่างๆทางด้านเดบิตส่วนรายรับจากการประกอบกิจการนั้นจะบันทึกทางด้านเครดิต
เมื่อสิ้นสุดการดำเนินงาน ถ้าบัญชีเงินลงทุนมียอดเดบิตจะแสดงถึงผลขาดทุนสุทธิ
แต่ถ้าบัญชีเงินลงทุนมียอดเครดิตก็แสดงถึงผลกำไรสุทธิผลกำไรหรือขาดทุนสุทธิดังกล่าวนั้นจะถูกโอนปิดเข้าบัญชีทุนของเจ้าของกิจการต่อไป
1.2 Joint Venture หรือการร่วมค้า
หมายถึง บุคคลตั้งแต่สองคนหรือกิจการค้าตั้งแต่สองกิจการขึ้นไปร่วมประกอบการค้า
ซึ่งมีลักษณะเป็นการชั่วคราวและมีขอบเขตจำกัดโดยหวังผลกำไรมาแบ่งปันกัน ดังนั้น
การร่วมค้าจังมรลักษณะเช่นเดียวกับการเป็นหุ่นส่วนกันการร่วมค้าจึงได้นำกฎหมายว่าด้วยหุ้นส่วนมาใช้บังคับแต่การร่วมค้าจะแตกต่างไปจากกิจการห้างหุ้นส่วนตรงที่ว่ากิจการร่วมค้าเป็นกิจการที่กระทำเป็นการชั่วคราว
ไม่ใช่ดำเนินไปตามปกติที่ต่อเนื่องกัน ขอบเขตของงานจึงอยู่เพียงการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง
ดังนั้นอำนาจหน้าที่ของผู้ร่วมค้าจึงถูกจำกัดไปด้วยโดยที่กิจการร่วมค้าเมื่อสิ้นสุดของการร่วมค้าก็เป็นอันเลิกกัน
ตามปกติแล้วผู้ร่วมค้าจะมีการประชุมเลือกตั้งผู้จัดการขึ้นมาคนหนึ่งเป็นผู้บริการงาน
ตลอดจนเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำงบสรุปผลการดำเนินงานต่างๆ
และผู้บริการที่ได้รับเลือกผู้นั้นก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ
2.
ความสำคัญของกินการร่วมค้า
ในปัจจุบันมักจะไม่พบเห็นการประกอบกิจการลักษณะการร่วมค้า
นอกจากจะเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่ไปแสวงหางานในต่างประเทศ เช่น
การประมูลร่วมกันกับบริษัทของท้องถิ่นเพื่อทำงานแต่ละโครงการ ซึ่ง APB
Opinion NO.18 ระบุไว้ดังนี้
รูปแบบของการร่วมค้า
การร่วมค้ามีรูปแบบและโครงสร้างหลายประเภท
มาตรฐานการบัญชีฉบับนี้กำหนดการร่วมค้าเป็นประเภทใหญ่ๆไว้ 3 ประเภท คือ
การดำเนินงานที่ควบคุมร่วมกัน สินทรัพย์ที่ควบคุมร่วมกัน
และกิจการที่ควบคุมร่วมกัน การร่วมค้าทั้ง 3
ประเภทเป็นไปตามคำนิยามของการร่วมค้าซึ่งตามปกติมีลักษณะทุกข้อดังนี้
1. ผู้ร่วมค้าสองรายหรือมากกว่าขึ้นไปมีความผูกพันโดยข้อตกลงร่วมค้าตามสัญญา
2. ข้อตกลงตามสัญญากำหนดให้มีอำนาจในการควบคุมร่วมกัน
รายการค้าระหว่างผู้ร่วมค้ากับการร่วมค้า
ผู้ค้าร่วมต้องรับรู้ส่วนของกำไรหรือขาดทุนที่เกิดจากการโอนหรือขายสินทรัพย์ให้แก่การร่วมค้าตามเนื้อหาของรายการค้าที่เกิดขึ้น
หากผู้ร่วมค้าโอนสินทรัพย์พร้อมกับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีนัยสำคัญของความเป็นเจ้าของให้แต่การร่วมค้าและหากการร่วมค้ายังคงครอบครองสินทรัพย์นั้นอยู่
ผู้ร่วมค้าต้องรับรู้กำไรหรอขาดทุนในงบการเงินของผู้ร่วมค้าเฉพาะส่วนที่เป็นส่วนได้เสียของผู้ร่วมค้าอื่น
อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมค้าต้องรับรู้ผลขาดทุนทั้งจำนวนเมื่อมีหลักฐานสนับสนุนว่าสินทรัพย์ที่โอนหรือขายให้แก่กิจการร่วมค้ามีมูลค่าสุทธิที่จะได้รับลดลงในกรณีของสินทรัพย์หมุนเวียนหรือมีผลขาดทุนจากการด้อยค่าเกิดขึ้น
การเปิดเผยข้อมูล
1.
ผู้ร่วมค้าต้องเปิดเผยจำนวนรวมของรายการหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นต่อไปนี้แยกต่างหากจากรายการหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นอื่น
ยกเว้นกรณีที่ผลขาดทุนจากรายการดังกล่าวไม่น่าที่จะเกิดขึ้น
1.1 หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นซึ่งผู้ร่วมค้าเป็นผู้ก่อให้เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการมีส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า
และหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นซึ่งเกิดขึ้นร่วมกับผู้ร่วมค้าอื่น
1.2 หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นของการร่วมค้า
เฉพาะส่วนที่ผู้ร่วมค้าอาจต้องรับผิดชอบ
1.3
รายการหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ผู้ร่วมค้าอาจต้องรับภาระหนี้สินของผู้ร่วมค้าอื่นในการร่วมค้า
2.
ผู้ร่วมค้าต้องเปิดเผยจำนวนรวมของภาระผูกพันของตนที่เกิดจากการมีส่วนได้เสียในการร่วมค้าทุกข้อดังต่อไปนี้แยกต่างหากจากภาระผูกพันอื่น
2.1
ภาระผูกพันเกี่ยวกับการลงทุนของผู้ร่วมค้าที่เกิดจากการมีส่วนร่วมได้เสียในกิจการร่วมค้าและภาระผูกพันด้านเงินลงทุนที่เกิดขึ้นร่วมกับผู้ร่วมค้าอื่น
2.2
ส่วนแบ่งในภาระผูกพันด้านเงินทุนในการร่วมค้า
3.
ผู้ร่วมค้าต้องเปิดเผยรายการและคำอธิบายเกี่ยวกับส่วนได้เสียในการร่วมค้าที่มีนัยสำคัญและสัดส่วนของส่วนได้เสียในส่วนของเจ้าของที่มีในกิจการที่ควบคุมร่วมกันผู้ร่วมค้ารับรู้ส่วนได้เสียของตนในกิจการที่ควบคุมร่วมกันโดยนำรายการต่างๆของกิจการที่ควบคุมร่วมกันมารวมกับรายการที่คล้ายคลึงกันในงบการเงินของตน
4.
ผู้ร่วมค้าต้องเปิดเผยวิธีการที่ใช้ในการรับรู้ส่วนได้เสียในกิจการที่ควบคุมร่วมกัน
ประเภทของธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจร่วมค้า
ร้านห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทสามรถที่จะดำเนินธุรกิจได้หลายประเภทด้วยกันไม่ว่าจะขายสินค้าหรือบริการ
ธุรกิจร่วมค้าซึ่งมีลักษณะคล้ายกับห้างหุ้นส่วน
สามารถประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือบริการได้ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของธุรกิจร่วมค้า
1.ธุรกิจขายสินค้า
ธุรกิจแบบนี้จะมีผู้ร่วมค้าตั้งแต่ 2
คนขึ้นไป โดยฝ่ายหนึ่งจะทำหน้าที่จัดหาสินค้าเพื่อขาย
และผู้ร่วมค้าอีกฝ่ายจะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการขาย
2.ธุรกิจการจัดสรรที่ดิน
ธุรกิจแบบนี้จะมีผู้ร่วมค้าคนหนึ่งมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
และนำที่ดินดังกล่าวมาร่วมลงทุนในกิจการส่วนผู้ร่วมค้าคนอื่นจะนำเงินสด
สินทรัพย์และแรงงานมาลงทุน
3.ธุรกิจการสร้างและจัดจำหน่ายภาพยนตร์
ธุรกิจแบบนี้จะมีผู้ร่วมค้าหลายคน
ประกอบไปด้วยผู้ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการติดต่อนักประพันธ์การทำบทภาพยนตร์
การจัดหานักแสดง ผู้กำกับการแสดง ผู้อำนวยการสร้าง รวมถึงผู้ให้เงินทุน
สาเหตุที่มีการทำธุรกิจแบบร่วมค้า
การทำธุรกิจใดๆก็ตาม
จะต้องมีการวางแผนหาสาเหตูของการจัดทำ
เช่นเดียวกันสาเหตุของการจัดทำธุรกิจร่วมค้าสืบเนื่องมาจากสาเหตุดังนี้
1.การลดความเสี่ยงภัย
2.เพื่อรวบรวมเงินทุน
3.การรวบรวมความรู้ความสามารถจากบุคคลต่างๆ
4.การประหยัดค่าใช้จ่าย
5.ประโยชน์ทางกฎหมาย
การบันทึกบัญชีกิจการร่วมค้า
โดยทั่วไปมี
2 วิธีด้วยกัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของกิจการที่จะนำไปใช้
วิธีการบันทึกบัญชีดังกล่าวคือ
วิธีที่
1 ไม่เปิดสมุดบัญชีร่วมค้าอีกชุดหนึ่ง
วิธีนี้ผู้ร่วมค้าแต่ละคนจะจดบันทึกรายการร่วมค้าทั้งสิ้นในสมุดบัญชีของตนเอง
โดยไม่เปิดสมุดบัญชีชุดร่วมค้าต่างหากอีกชุดหนึ่ง
เพราะรายการค้ามีจำนวนน้อยและระยะเวลาการดำเนินงานเป็นระยะเวลาสั้นๆ
การบันทึกบัญชี-วิธีที่ 1
ไม่เปิดสมุดบัญชีร่วมค้าอีกชุดหนึ่ง
รายการค้า
|
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1
|
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2
|
1.ผู้ร่วมค้าคนที่
1 นำสินค้ามาลงทุน วิธี Periodic
Inventory System
|
ร่วมค้า xx
สินค้าส่งไปกิจการร่วมค้า
xx
|
ร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
วิธี
Perpetual Inventory System
|
ร่วมค้า xx
สินค้า xx
|
ร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
2.ผู้ร่วมค้าคนที่
1 จ่ายค่าขนส่งสินค้า
|
ร่วมค้า xx
เงินสด xx
|
ร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
3.ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 นำเงินสด/สินทรัพย์อื่นมาลงทุน
|
ผู้ร่วมค้าคนที่
2 xx
เงินสด/สินทรัพย์อื่น xx
|
เงินสด/สินทรัพย์อื่น xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
4.ผู้ร่วมค้าคนที่
1 กู้เงินจากธนาคาร
|
เงินสด xx
เงินกู้ xx
|
ไม่บันทึกบัญชี
|
5.ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 ส่งเงินที่กู้มาให้
ผู้ร่วมค้าคนอื่น
|
ผู้ร่วมค้าคนที่
2 xx
ร่วมค้า xx
|
เงินสด
xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
6.
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2ขายสินค้าเป็นเงินสด
|
ผู้ร่วมค้าคนที่
2 xx
ร่วมค้า xx
|
เงินสด xx
ร่วมค้า xx
|
7.ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 ขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ
|
ผู้ร่วมค้าคนที่
2 xx
ร่วมค้า xx
|
ลูกหนี้ xx
ร่วมค้า xx
|
8.ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 จ่ายค่าขนส่งสินค้า
|
ร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 xx
|
ร่วมค้า xx
เงินสด xx
|
9.ผู้ร่วมค้าคนที่
2 รับคืนสินค้าจากลูกค้า
|
ร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 xx
|
ร่วมค้า xx
เงินสด/ลูกหนี้ xx
|
10.ผู้ร่วมค้าคนที่
2 รับชำระหนี้จากลูกหนี้เป็นตั๋วเงิน มีดอกเบี้ย
|
ไม่บันทึกบัญชี
|
ตั๋วเงินรับ xx
ลูกหนี้ xx
|
รายการค้า
|
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1
|
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2
|
11.ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 รับเงินตามตั๋วเงินรับพร้อมดอกเบี้ย
|
ผู้ร่วมค้าคนที่
2 xx
ร่วมค้า(เฉพาะดอกเบี้ย) xx
|
เงินสด xx
ตั๋วเงินรับ xx
ร่วมค้า xx
|
12.ผู้ร่วมค้าคนที่
2 รับชำระหนี้จากลูกหนี้
|
ไม่บันทึกบัญชี
|
เงินสด xx
ลูกหนี้ xx
|
13.ผู้ร่วมค้าคนที่
2 รับชำระหนี้จากลูกหนี้และให้ส่วนลดแก่ลูกหนี้
|
ร่วมค้า(เฉพาะส่วนลด) xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 xx
|
เงินสด xx
ร่วมค้า(เฉพาะส่วนลด) xx
ลูกหนี้ xx
|
14.ผู้ร่วมค้าคนที่
2 รับชำระหนี้จากลูกหนี้และตัดลูกหนี้เป็นหนี้สูญ
|
ร่วมค้า(เฉพาะหนี้สูญ) xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 xx
|
เงินสด xx
ร่วมค้า(เฉพาะหนี้สูญ) xx
ลูกหนี้ xx
|
15.ผู้ร่วมค้าคนที่
1 ซื้อสินค้าให้กิจการร่วมค้าไว้ขาย เป็นเงินสด
|
ร่วมค้า xx
เงินสด xx
|
ร่วมค้า
xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
16.ผู้ร่วมค้าคนที่
1 ซื้อสินค้าให้กิจการร่วมค้าไว้ขาย เป็นเงินเชื่อ
|
ร่วมค้า xx
เจ้าหนี้ xx
|
ร่วมค้า
xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
17.ผู้ร่วมค้าคนที่
1 ส่งคืนสินค้าที่ให้กิจการร่วมค้าเนื่องจากชำรุด
|
เงินสด/เจ้าหนี้ xx
ร่วมค้า xx
|
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
ร่วมค้า
xx
|
18.ผู้ร่วมค้าคนที่
1 ออกตั๋วสัญญาใช้เงินมีดอกเบี้ย ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้
|
เจ้าหนี้ xx
ตั๋วเงินจ่าย xx
|
ไม่บันทึกบัญชี
|
19.ผู้ร่วมค้าคนที่
1 ชำระหนี้ตามตั๋วเงินจ่ายพร้อมดอกเบี้ย
|
ตั๋วเงินจ่าย xx
ร่วมค้า(เฉพาะดอกเบี้ย) xx
เงินสด xx
|
ร่วมค้า(เฉพาะดอกเบี้ย) xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
20.ผู้ร่วมค้าคนที่
1 ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ได้รับส่วนลดจากเจ้าหนี้
|
เจ้าหนี้ xx
เงินสด xx
|
ไม่บันทึกบัญชี
|
รายการค้า
|
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1
|
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2
|
21.ผู้ร่วมค้าคนที่
1 ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ได้รับส่วนลดจากเจ้าหนี้
|
เจ้าหนี้ xx
เงินสด xx
ร่วมค้า(เฉพาะดอกเบี้ย) xx
|
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
ร่วมค้า(เฉพาะส่วนลด) xx
|
22.คิดค่านายให้ผู้ร่วมค้าที่ขายสินค้าได้
|
ร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 xx
|
ร่วมค้า xx
รายได้ค่านายหน้า xx
|
23.คิดค่าป่วยการ/ดอกเบี้ยให้ผู้ร่วมค้าที่นำสินค้า/สินทรัพย์มาลงทุน
|
ร่วมค้า xx
ค่าป่วยการรับ/ดอกเบี้ยรับ
xx
|
ร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
24.คิดเงินเดือนให้ผู้ร่วมค้า
|
ร่วมค้า xx
เงินเดือนรับ xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 xx
|
ร่วมค้า xx
เงินเดือนรับ xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
25.บันทึกรายการปรับปรุง
เช่นผู้ร่วมค้าคนที่ 1 บันทึกค่าใช้จ่ายของกิจการร่วมค้าเป็นของตนเอง
|
ร่วมค้า xx
ค่าใช้จ่าย xx
|
ร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
26.ปิดบัญชีร่วมค้าและแบ่งกำไรขาดทุนจากกิจการร่วมค้า-กรณีกำไรจากกิจการร่วมค้า
|
ร่วมค้า xx
กำไรจากการร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 xx
|
ร่วมค้า xx
กำไรจากการร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
-กรณีขาดทุนจากกิจการร่วมค้า
|
ขาดทุนจากการร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่
2 xx
ร่วมค้า xx
|
ขาดทุนจากการร่วมค้า xx
ผู้ร่วมค้าคนที่
1 xx
ร่วมค้า xx
|
27.ปิดบัญชีผู้ร่วมค้าและจ่ายเงินคงค้างระหว่างกัน
-กรณีผู้ร่วมค้าคนที่
1 เป็นผู้รับเงิน
|
เงินสด xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 2 xx
|
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
เงินสด xx
|
-กรณีผู้ร่วมค้าคนที่
2 เป็นผู้จ่ายเงิน
|
ผู้ร่วมค้าคนที่
2 xx
เงินสด xx
|
เงินสด xx
ผู้ร่วมค้าคนที่ 1 xx
|
หลักการบันทึกบัญชีร่วมค้า
ด้านเดบิต
|
ด้านเครดิต
|
1.นำสินค้ามาลงทุน 1. ขายสินค้า
2.ซื้อสินค้า 2.ส่งคืนสินค้า
3.ค่าขนส่งสินค้า 3.ส่วนลดรับ
4.ส่วนลดจ่าย 4.ดอดเบี้ยรับ
5.รับคืนสินค้า 5.ส่วนแบ่งขาดทุนจากกิจการร่วมค้า
6.หนี้สูญ
7.ดอกเบี้ยจ่าย
8.ค่านายหน้า
9.ค่าป่วยการ
10.ส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้า
*ส่วนแบ่งขาดทุนจากกิจการร่วมค้า
–กรณีที่ยอดรวมด้านเดบิต>ยอดรวมด้านเครดิต
**ส่านแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้า -กรณีที่ยอดรวมด้านเดบิต<ยอดรวมด้านเครดิต